น้องๆรถยางรั่ว - น้องๆรถยางรั่ว นิยาย น้องๆรถยางรั่ว : Dek-D.com - Writer

    น้องๆรถยางรั่ว

    ผู้เข้าชมรวม

    121

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    121

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  ตลก-ขบขัน
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  16 มิ.ย. 61 / 21:05 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตึง ตึ่ง ตึ้ง เรื่องสั้นเรื่องนี้เหมาะสำหรับผู้อ่านทุกเพศทุกวัย และโดยเฉพาะคนเชื่อคนง่ายต้องอ่าน!


     
                   ในเวลาสี่ทุ่มครึ่งกว่าๆ ผมที่กำลังหงุดหงิดเพราะท้องเริ่มหิวของหวานอย่างรุนแรง หากไม่มีขนมมาฟาดปากแล้วละก็ คงดูเพาเวอร์เรนเจอร์ไม่สนุกเป็นแน่แท้ ใครหลายๆคนคงจะเป็นเหมือนกัน ชอบหิวตอนดึกๆ ผมก็เลยต้องออกไปหา น้ำอัดลม น้ำชา(น้ำชานี่เพื่อฝา) มันฝรั่ง ขนมปัง ช็อกโกแลต ถั่วต่างๆ ฮอตดอก และขนมจีบซาลาเปาตบท้าย


        
             ผมคว้าเวฟร้อยเก่าคู่ใจใกล้พังและก็ขี่ไปยังมินิมาร์ทใกล้บ้าน ขออธิบายทางที่จะไปมินิมาร์ทนั้นมีสองทางคือ ทางแรกถนนสายใหญ่ที่มีรถวิ่งกันให้ขวักไขว้ มีไฟให้แสงสว่างตลอดทาง และอีกทางก็ทางซอยทางลัด มีระยะทางประมาณห้าร้อยเมตร ซึ่งใกล้กว่าทางแรกมาก แต่ซอยนี้เป็นซอยเปลี่ยว และถนนเพิ่งรื้อทำใหม่จึงมีเศษหินเศษดินเต็มถนนไฟหมด ทั้งซอยมีไฟกิ่งไม่กี่ดวง พอให้เห็นทางสลัวๆเท่านั้น     


     
                   ด้วยความมักง่ายของผมจึงเลือกซอยทางลัดนั้น ใช้ความเร็วประมาณสามสิบถึงสี่สิบกิโลเมตรต่อชั่วโมง ระหว่างทางก็คิดไปว่ากูจะซื้ออะไรที่มันอร่อยๆดีนะ แล้วก็จะมานั่งดู เพาเวอร์เรนเจอร์อย่างมีความสุข 


                   จู่ๆก็มีเสียงรถมอเตอร์ไซค์ที่ตามท้ายมา เร่งเครื่องขึ้นมา ขี่เทียบกับรถผม  เป็นผู้ชายสองคนเสื้อแขนยาว กางเกงขายาว คนหน้าใส่หมวกกันน็อคเปิดหน้า ส่วนคนหลังใส่หมวกแก๊บ แล้วไอ้คนซ้อนก็ยิ้มเห็นฟันสีขาวจั๊วะ ที่สะท้อนแสงไฟอันน้อยนิด แต่ผมกลับเห็นหน้ามิถนัดนัก เพราะแสบตากับฟันสะท้อนแสง ไม่ใช่ครับเพราะแสงมันไม่พอต่างหาก เห็นแค่เค้าลางหน้าตา ก่อนตะโกนเบาๆขึ้นมาว่า 


    "น้องๆ รถยางรั่ว"



     
                   เอ๊ะ ทำไมพี่สองคนถึงมีน้ำใจขนาดนี้นะ ผมคิดในใจ ด้วยเหตุที่ว่าถนนมันขรุขระประกอบกับรถผมยางอ่อนด้วย และรอยยิ้มเห็นฟันพาแสบตา ผมจึงเกิดความสนิทชิดเชื้อจอดข้างทางไม่ดับเครื่องรถ ตั้งขาตั้งได้ กำลังจะยืนและหันหน้าก้มดูยางล้อรถหลังปุ๊บ มอเตอร์ไซค์คันนั้นก็จอดเทียบปั๊บ ทันใดก็มีบางอย่างมากระทบเบ้าตาด้านขวาของผม เสียงดังฟังชัดเจน ดังว่า


    "พลั๊ก"


                     ทันทีที่สัมผัสกับวัตถุที่มากระทำ เซนเซอร์ตรวจจับบนใบก็รับรู้ได้ว่าเป็นหมัด  ตัดภาพเป็นเป็นสโลว์ หน้าผมหันไปตามแรงหมัด ตาลอยนิดหนึ่ง เนื้อใบหน้ากระเพื่อมตามแรงกระทำ น้ำในปากกระฉอกออกมาเป็นสาย เหมือนบัวขาวที่ซัดนักมวยฝรั่งในทีวี ในหัวว่างเปล่าไปหมด แต่ก็มีคำถามในใจว่า

    "ต่อยกูทำไมวะ"


        (ซึ่งไอ้โจรฟันขาวนั้น น่าจะใช้มือซ้ายต่อยและอาจไม่ถนัด ประกอบนั่งอยู่บนรถ จึงไม่พอที่จะทำให้ผมสลบ) แรงหมัดทำให้ผมเกือบมึนไปชั่วขณะ ถึงกับฟุบไปกับกอดคอรถ แต่ก็ฟื้นไวทำให้ไอ้ฟันขาวชะงักได้ แต่ด้วยความอ่อนต่อโลกหรือโง่กันแน่ ผมตั้งสติได้ เลยถามไปอย่างกล้าๆกลัวว่า


    "พี่ต่อยผมทำไมครับบบบ" ไอ้คนข้างหน้าหัวเราะ "เหอๆ" เยี่ยงโจร ก็มันเป็นโจร ส่วนไอ้คนยิ้มฟันขาวกล่าวตะคอกอย่างสุภาพกับผมว่า


    "ไอ้ควายยยยย" แนะจะปล้นกูยังมีมาการด่ากูว่าไอ้ควายอีก จนคุณโจรแกก็บอกผมว่า


    "ลงจากรถ เดี่ยวนี้" อ้อมันจะเอารถผมนั้นเอง ในวินาทีความกลัวก็เข้ามาแทรกซึมผม จนหัวใจเต้นรัว ร่างกายสั่นไปหมด ไม่สามารถนึกอะไรหรือทำอะไรได้ 


                   ทำไมในเวลาวิกฤตแบบนี้ เพาเวอร์เรนเจอร์ทำไมถึงไม่ช่วยกูนะ มาสไรเดอร์คาบูโตะก็ได้เท่ดี กัปตันอเมริกาเอาโล่มาตบฟันมันให้ร่วงหน่อย "แม๊หลอกกูได้" ไม่ก็ไม่มีใครอีโร่คนไหนช่วยผมซักคน เพราะมันมีแค่ในหนัง ในวินาทีที่โจรตะคอกผมจนทำอะไรไม่ถูก จู่ก็มีเสียงดังจากข้างหลังพร้อมกับแสงที่สาดส่องขึ้นมาว่า


    "เฮ้ย ทำอะไรกัน" นั้นๆคาบูโตะมาช่วยกูแล้วไง เดี่ยวพวกนี้เจอไรเดอร์คิกแน่ๆ


                   โจรสองตกใจคนตาลีตาเหลือก รีบขี่รถจากโดยไม่บอกลาผมซักคำ แล้วผู้ชายใจดีที่อวตารเป็นไรเดอร์คาบูโตะ ก็ขี่รถมาจอดเทียบข้างรถผมแทนที่แล้วถามด้วยน้ำเสียงหล่อๆทุ้มต่ำว่า


    "อะหึยยย น้องชายยยยย เป็นอะไรไหม" 

    "ไม่เป็นอะไรครับ"   

                   ด้วยความตกใจผมรีบขี่รถกลับบ้าน  ยังไม่ทันได้ขอบคุณผู้ชายคนนั้นซักคำ นั่งไม่พูดไม่จากับใครอยู่เป็นชั่วโมง  กะจะได้กินของอร่อย แต่ไหนดันมาได้ แ-ก หมัดละนี่  

    เจอเหตุการณ์แบบนี้ต้องมีสติและช่วยตัวเองเป็น จบ!

    ขอบคุณที่เข้ามาอ่านครับ
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×